ครอบครัวมุสลิมในอุดมคติ
~~~~~~~~~~~~~~~
(แปลและเรียบเรียงจากบรรยายของชัยคฺอัซซิม อัลฮากีม)
ในการสรัางครอบครัวนั้น แน่นอนว่าเราย่อมต้องการที่จะมีคู่ครองที่ดี เป็นผู้ศรัทธา ยึดมั่นในหลักการศาสนา ซึ่งนี่คือครอบครัวในอุดมคติของเรา
แต่นั่นหมายความว่า บ้านของเราจะไม่มีการทะเลาะเบาะแวัง การโต้เถียงกัน ความไม่ลงรอยกันหรือไม่? ในความจริงแล้วมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ หรืออาจจะเป็นไปได้ แต่ก็ค่อนข้างยากมาก
แม้แต่ในครอบครัวที่ดูว่าดีที่สุด ก็ยังพบว่ามีการปะทะกัน หรือการโต้เถียงกันเล็กๆ น้อยๆ บ้าง อาจจะไม่ใช่การทะเลาะวิวาทที่รุนแรง แต่มันก็มีเรื่องจุกจิกเล็กๆ น้อยๆ นี่นั่นให้ได้โต้แย้ง
แม้แต่ศาสนทูตมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กับท่านหญิงอาอิชะฮฺ (เราะฏิยัลลอฮุ อันฮา) ท่านหญิงอาอิชะฮฺเองก็เคยไม่พอใจ ขุ่นเคืองท่านเราะสูลเป็นครั้งคราว ลองคิดดูสิว่า ท่านหญิงอาอิชะฮฺไม่พอใจท่านเราะสูล! แต่มันก็เป็นเรื่องปกติระหว่างสามีและภรรยา ซึ่งมันไม่เกี่ยวขัองกับการเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺหรือการเป็นบ่าวของพระองค์แต่อย่างใด แต่มันคือเรื่องของสามีและภรรยา
ศาสนทูตมุหัมมัดเคยพูดกับท่านหญิงอาอิชะฮฺว่า ‘โอ้ อาอิชะฮฺ ฉันรู้ว่าเมื่อใดที่เธอพึงพอใจฉัน และเมื่อใดที่เธอโกรธเคืองฉัน’ นางจึงถามท่านว่า ‘ท่านทราบได้อย่างไรคะ’ เราะสูลุลลอฮฺ’ ท่านตอบว่า ‘ในเวลาที่เธอโกรธเคืองฉัน เธอจะพูดว่า ‘ไม่ค่ะ ขอสาบานด้วยพระเจ้าของอิบรอฮีม!’ และในเวลาที่เธอพอใจ เธอจะพูดว่า ‘ไม่ค่ะ ขอสาบานด้วยพระเจ้าของมุหัมมัด!’ นางจึงกล่าวว่า ‘ใช่ค่ะ เราะสูลุลลอฮฺ มันเป็นเช่นนั้นจริง หากแต่ฉันก็ไม่ได้ละทิ้งสิ่งใด เว้นแต่ชื่อของท่าน และฉันก็รักท่าน แต่ในเวลาที่ฉันโกรธเคืองท่าน ฉันจะไม่เรียกชื่อของท่าน’
เช่นเดียวกับเรื่องราวระหว่างท่านหญิงฟาติมะฮฺและท่านอาลี ท่านทั้งสองก็เคยมีปัญหาโกรธเคืองกัน ครั้งหนึ่งศาสนทูตมุหัมมัดได้เข้าไปเยี่ยมบุตรสาวของท่าน และถามนางว่า ‘อาลีอยู่ไหน หรือลูก?’ นางตอบว่า ‘ท่านอาลีโกรธเคืองฉัน เพราะเราโต้เถียงกันเล็กน้อยเกี่ยวกับบางสิ่ง ท่านจึงออกไปที่มัสญิด’ ดังนั้นศาสนทูตจึงไปพบท่านอาลีที่มัสญิด และเห็นท่านกำลังนอนอยู่ที่พื้นมัสญิด ศาสนทูตจึงปลุกท่านพร้อมทั้งพูดว่า ‘จงลุกขึ้นเถอะ บิดาแห่งฝุ่นดิน’ นั่นเป็นเพราะว่าท่านนอนอยู่บนพื้นดิน ท่านอาลีจึงตอบท่านว่า ‘มันช่างเป็นชื่อที่งดงามยิ่ง กระผมจะไม่ยอมแลกเปลี่ยนมันด้วยสิ่งอื่นใด’ .. “อะบา ตุร็อบ” คือชื่อเล่นของท่านอาลี
อีกตัวอย่าง ชายคนหนึ่งทะเลาะกับภรรยาของเขา เขาไม่สามารถทนกับพฤติกรรมของนางได้ เขาจึงไปพบท่านอุมัรฺ (เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ) ซึ่งเป็นเคาะลิฟะฮฺในช่วงเวลานั้น เพื่อร้องเรียน เมื่อเขาเคาะประตูบ้านของท่าน เขาก็ได้ยินภรรยาของท่านอุมัรฺกำลังแผดเสียงใส่ท่านอุมัรฺอยู่ เขาจึงพูดกับตัวเองว่า ‘นี่ฉันเดินทางมาเพื่อร้องเรียนต่อท่านอุมัรฺหรือนี่? ท่านคงต้องการความช่วยเหลือมากกว่าฉันเป็นแน่” ดังนั้นชายคนดังกล่าวจึงเดินจากไปและไม่นานนักท่านอุมัรฺก็รีบรุดมา ที่ประตู และถามหาถึงชายคนนั้น “ชายคนนั้นไปไหนเสียแล้ว จงมานี่เถอะ ท่านมีอะไรหรือไม่” เขาจึงตอบว่า “ไม่มีอะไรครับท่าน กระผมเพียงแค่มีปัญหา แต่กระผมคิดว่าท่านคงต้องการความช่วย เหลือมากกว่ากระผม” ท่านอุมัรฺจึงตอบเขาว่า
ขอสาบานด้วยอัลลอฮฺ หากว่าเรามองดูคู่ครอง สามี ภรรยาของเราเช่นเดียวกับท่านอุมัรฺ เราคงดำเนินชีวิตคู่ได้อย่างสวยงาม เพราะว่าเมื่อใดก็ตาม ที่ชัยฏอนมายังเราและกระซิบที่หูเราว่า “ทำแบบนี้สิ” หรือ “ทำแบบนั้นสิ” เราคงตอบมันกลับไปว่า “ไม่ เพราะเธออดทนกับฉัน ภรรยาของฉันอดทนกับพฤติกรรมของฉัน ทั้งที่ฉันมีข้อบกพร่องมากมาย ดังนั้นหากว่าอาหารที่เธอทำมันรสชาติไม่อร่อยหรือไหม้นิดๆ หรือไม่มีเกลือปรุงลงไปในอาหารเลย ฉันก็จะทานมัน ฉันจะทานสามสี่คำ และฉันก็จะบอกเธอว่า “ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนความดีงามต่อเธอ อาหารที่เธอทำอร่อยมาก”
ใช่ ผมโกหก (ศาสนาอนุมัติให้โกหกในกรณีเช่นนี้ได้) แต่เพราะเหตุใดหรือ? .. นั่นก็เป็นเพราะว่า ผมไม่พาเธอออกไปทานอาหารข้างนอกเอง ผมไม่ได้ซื้อของขวัญให้เธอ ผมไม่เมตตาต่อเธอ ผมไม่ใช่สามีที่ดีเลิศสมบูรณ์แบบ ดังนั้นผมจึงต้องอดทนต่อพฤติกรรมที่ไม่ดีบางอย่างของเธอ ด้วยความหวังว่าอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลจะทรงทำให้เธออดทนต่อพฤติกรรมไม่ดีบางอย่างของผมด้วยเช่นกัน
และด้วยวิธีคิดเช่นนี้ เราย่อมสามารถสร้าง “ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ” ได้ และแน่นอนว่า อัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่ง
ผม (ชัยคฺอัซซิม) ขอวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺให้พระองค์ทรงปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ดีทั้งหลายของเรา และขอพระองค์ทรงทำให้บ้านของเราเป็น “บ้านมุสลิมในอุดมคติ” อามีน
————
แปลเรียบเรียง Bint Al Islam
Read Full Post »