รูป จากอินเตอร์เน็ต
แหล่งที่มา บทความ How would you like to be advised?
http://www.facebook.com/note.php?note_id=182494331780351&id=126354667404022
โดย ชัยคฺ มุหัมมัด อิบนุ อับดีล วะฮาบ อัล อะกีล
ถอดความ บินติ อัลอิสลาม
คำถาม
โอ้ ชัยคฺของฉัน ขออัลลอฮฺทรงปกป้องคุ้มครองท่าน เราหวังว่าท่านจะสามารถชี้แจงให้เราทราบถึงวิธีการที่ถูกต้องในการให้คำแนะนำตักเตือน (ต่อพี่น้องของเรา) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากผู้ที่กำลังได้รับคำตักเตือนนั้นก็อยู่ในหลักการที่ถูกต้อง หากแต่เขายังคงมีความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อยู่?
คำตอบ
ขออัลลอฮฺทรงปกป้องคุ้มครองท่าน
“การให้คำแนะนำตักเตือน” นั้นเป็นสิ่งที่มีความประเสริฐเป็นอย่างมาก ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า “ศาสนาคือการนาซีฮัต (การแนะนำตักเตือน ความจริงใจ)” ถึงสามครั้ง เราจึงถามว่า “ต่อใครหรือ ท่านเราะสูล” ท่านเราะสูลตอบว่า “ต่ออัลลอฮฺ ต่อคัมภีร์ของพระองค์ ต่อศาสนทูตของพระองค์ และต่อบรรดาผู้นำแห่งประชาชาติมุสลิมทั้งหลาย และต่อผู้ที่อยู่ภายใต้การดูแลของพวกเขา”
ดังนั้น ในการให้คำแนะนำตักเตือนต่อพี่น้อง หรือการสั่งใช้ให้พวกเขากระทำความดีและห้ามปรามพวกเขาจากความชั่ว และการเรียกร้องให้พวกเขาไปสู่ความดีงามนั้น ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวไว้ว่า “จงปฏิบัติต่อผู้คนดังเช่นที่ท่านปรารถนาที่จะได้รับการปฏิบัติเถิด”
นี่คือหลักเกณฑ์ ที่คุณควรต้องปฏิบัติต่อผู้คนในหนทางที่คุณปรารถนาให้พวกเขาปฏิบัติต่อคุณเช่นกัน ขออัลลอฮฺทรงปกป้องคุ้มครองเราด้วยเถิด
(ลองถามตัวคุณเองสิว่า…)
คุณปรารถนาจะได้รับการแนะนำตักเตือนจากผู้อื่นอย่างไร?
คุณปรารถนาจะให้พวกเขาตักเตือนคุณด้วยวิธีที่แข็งกระด้างหรือไม่?
คุณปรารถนาจะให้พวกเขาสบประมาท ดูถูกคุณหรือไม่?
คุณปรารถนาจะให้พวกเขาทุบตีคุณหรือไม่?
หรือคุณปรารถนาให้พวกเขาตักเตือนคุณด้วยวิธีการที่ดีและด้วยความสุภาพหรือไม่?
“เจ้าจงขับไล่ (ความชั่ว) ด้วยความดี แล้วเมื่อนั้นผู้ที่ระหว่างเจ้ากับเขาเคยเป็นอริกันย่อมกลับกลายเป็น เยี่ยงมิตรที่สนิทกัน” (41:34)
แน่นอนว่า เราต่างมีข้อผิดพลาดมากมายในกิจการต่างๆ ของเรา และเราก็มีข้อบกพร่องอีกมากมายในเรื่องของการปฏิบัติตัว การปฏิสัมพันธ์กับบิดาและมารดา และนั่นเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงที่เกิดขึ้น ขออัลลอฮฺทรงปกป้องเราจากสิ่งนี้ด้วยเถิด
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ พ่อแม่บางคนพร่ำบ่นเกี่ยวกับบลูกๆ ของพวกเขา ถึงขนาดที่กล่าวว่า “ฉันก็ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่ปฏิบัติต่อหลักการศาสนาเคร่งครัดขนาดนี้” “ลูกของฉันเคยปฏิบัติกับฉันดีกว่านี้ ในช่วงก่อนที่เขาจะเริ่มปฏิบัติตัวเคร่งครัดตามหลักการศาสนาแบบนี้”
ด้วยพระนามขอัลลอฮฺ ผมได้ยินคำพูดเหล่านี้จากผู้ที่เป็นพ่อแม่บางคน
และนี่ยังรวมไปถึง การปฏิสัมพันธ์ระหว่างเรากับพี่น้องของเรา ญาติพี่น้องของเรา พ่อของเรา แม่ของเรา เพื่อนบ้านของเรา ภรรยาของเรา สามีของเรา .. ด้วยเช่นกัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ มันได้ก้าวไปจนถึงจุดที่ว่า มีคนกล่าวว่า “อย่าได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เคร่งครัดในศาสนาเลย ไม่เห็นหรือว่าเธอทำให้ผมฉันหงอกไปหมดแล้ว”
เราขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ เราขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้พ้นจากสิ่งนี้ เพราะแท้จริง “เขา” กำลังกล่าวในสิ่งที่ขัดแย้งกับ คำสอนของท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ที่ท่านได้กล่าวว่า“จงเลือกสตรีที่มีศีลธรรม (มีความเคร่งครัดต่อศาสนา) และท่านจะประสบความสำเร็จ”
สาเหตุดังกล่าว (ที่ทำให้คนกล่าวเช่นนั้น) เป็นเพราะว่า เธอปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดตามหลักการศาสนา หากแต่เธอไม่ทราบถึงวิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง เธอไม่ทราบว่าเธอควรดะวะฮฺสามีของเธออย่างไร และผู้ที่เป็นสามีก็ไม่ทราบว่าควรดะวะฮฺภรรยาของเขาเช่นไรเช่นกัน เราขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺให้เราปลอดภัยจากสิ่งเหล่านี้ด้วยเถิด
ประเด็นก็คือ (ปัจจุบัน) ผู้คนต่างเริ่มกล่าวตักเตือนกันให้ออกห่างจากบรรดาผู้มีศีลธรรม ผู้ที่เคร่งครัดต่อหลักการศาสนา ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วนั้น “(การครองคู่กับ) สามีผู้มีศีลธรรมนั้น” เป็นสิ่งที่ดีเพราะหากเขามิได้รักภรรยาของเขา เขาก็ย่อมยับยั้งตัวเขาจากการกดขี่ ข่มเหงเธอ ดังนั้นจงอย่าแต่งงานเว้นเสียแต่ว่า เขาคือผู้ที่มีศีลธรรม เพราะหากว่าผู้เป็นสามีรักภรรยาของเขา เขาย่อมปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี และหากมันเกิดเหตุที่ว่า เขาไม่ได้รักเธอ เขาย่อมไม่มีวันที่จะกดขี่ ข่มเหงเธอ นั่นก็เป็นเพราะว่าเขามีความเกรงกลัวต่ออัลลอฮฺ อัซซะ วะญัล
หากแต่ว่า เราต่างคงยังมีข้อบกพร่องมากมายในเรื่องนี้
อีกตัวอย่างของการให้คำแนะนำตักเตือนกันและการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน คือ พวกเรายังคงมีความเย็นชา และมีข้อผิดพลาดอีกมากมาย นี่คือเหตุผลที่เราจำต้องหันกลับสู่คำสอนของท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่าท่านปฏิบัติต่อบรรดาชาวยิวเช่นไร
มีชาวยิวกลุ่มหนึ่งเข้ามายังท่านและกล่าวว่า “อัซซัม อะลัยกะ” (ขอความตายจงประสบต่อท่าน โอ้ มุหัมมัด)
ท่านเราะสูลจึงตอบว่า “วะ อะลัยกะ” (พวกท่านก็เช่นกัน)
พึงดู “วิธีการปฏิบัติของท่านเราะสูล” ไว้เป็นแบบอย่างเถิด ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผมของเราย่อมกลายเป็นสีขาว หากเราไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้เยี่ยงท่าน ขอความสันติจงมีแด่ท่านเราะสูล …… อัลลอฮุ อักบัรฺ อัลลอฮุ อักบัรฺ
ท่านเราะสูลกล่าวตอบกลับชาวยิวว่า “วะ อะลัยกะ” ขณะที่มารดาแห่งความศรัทธาของเรา คือท่านหญิงอะอิชะฮฺ ตอบกลับชาวยิวว่า “ขอความตายและการสาปแช่งจงประสบแด่ท่านเถิด”
ดังนั้น ท่านเราะสูลกล่าวต่อนางว่า “เจ้าไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันได้กล่าวตอบกลับไปหรือ ฉันกล่าวว่า “วะ อะลัยกะ” ต่อเขา และอัลลอฮฺย่อมตอบรับการวิงวอนของฉัน แต่พระองค์จะมิทรงตอบรับการวิงวอนของเขา”
ดังนั้น “ความตาย และการสาปแช่ง ย่อมประสบต่อพวกเขา เพราะท่านเราะสูลได้วอนขอสิ่งนั้นต่อเขา”
ท่านเราะสูลเคยกล่าวไว้ว่า “แท้จริงแล้ว “ความสุภาพอ่อนโยน” นั้น มิได้เกิดกับสิ่งใด เว้นแต่มันทำให้สิ่งนั้นมีความสวยงาม และมันจะไม่ถูกนำออกไปจากสิ่งใด เว้นแต่มันจะก่อให้เกิดความหายนะต่อสิ่งนั้น”
ศาสนาของเรา คือศาสนาแห่งความอ่อนโยน ดังนั้นจงแสดงความอ่อนโยนต่อพี่น้องของท่าน จงอดทนต่อพวกเขา จงรวมหัวใจของพวกเขาให้เป็นหนึ่งเดียว และให้ของกำนัลแก่พวกเขา
ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม เองก็เคยให้ของกำนัลเป็นอูฐจำนวนหนึ่งร้อยกว่าตัว และท่านเคยให้ของกำนัลชาวเบดูอินคนหนึ่งเป็นแพะทั้งหุบเขา แพะทั้งหุบเขา! ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่านเราะสูล
มีตัวอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว .. พี่น้องของเราท่านหนึ่งในเมืองมะดีนะฮฺ เขามาจากที่อื่นที่ไม่ใช่ซาอุดิอารเบีย ผมเคยให้คำตักเตือนเรื่องบางเรื่องที่เกี่ยวกับ “เตาฮีด” ต่อเขา และเขากล่าวต่อผมว่า“ค่อยๆ สอนผมไปอย่างช้าๆ แล้วกันนะครับ ไม่ต้องเร่งรีบ เพราะตอนนี้ผมก็อายุ 55 แล้ว และเท่าที่ผมจำได้คือ แม่ของผมมักจะพาผมไปที่สุสานทุกๆ เช้า เพื่อที่ผมจะได้จูบหินที่หลุมฝังศพ และท่าน (ชัยคฺ) ต้องการให้ผมละทิ้งสิ่งที่ผมปฏิบัติมาตลอด 50 ปีนี้ เพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของท่านหรือ? ได้โปรดสอนผมแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เถอะ ไม่ต้องเร่งรีบ สอนผมทีละอย่างเถอะครับ”
และนี่คือสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่เขากล่าวนั้นถูกต้อง เป็นระยะเวลา 13 ปี ที่ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะศัลลัม พยายามจะทำให้พวกเขา (บรรดาผู้ปฏิเสธ) ละทิ้ง “อัล ลัตฺ” และ “อัล อุซซะอฺ” (เทพเจ้าที่ชาวอาหรับนับถือก่อนอิสลาม) ซึ่งมันไม่ได้ใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งวันหรือหนึ่งคืนที่ความทุกข์ทรมานได้ประสบกับพวกเขา (ท่านเราะสูลและบรรดาเศาะฮาบะฮฺ) ในช่วงเวลานั้น เมื่อท่านถูกขับไล่ มลาอิกะฮฺแห่งขุนเขาได้มายังท่านและกล่าวต่อท่านว่า “หากท่านปรารถนาที่จะให้ข้าสาปแช่งพวกเขาระหว่างเขาสองลูกนี้”
ท่านตอบว่า “ไม่ ฉันจะอดทนต่อพวกเขา มันอาจเป็นไปได้ว่าลูกหลานที่เกิดจากเขานั้นจะเป็นผู้ที่ทำการสักการะต่ออัลลอฮฺ”
เรื่องดังกล่าวได้เกิดขึ้น ขณะที่พวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้ปฏิเสธพระเจ้า และท่านเราะสูลก็อดทนต่อพวกเขา เช่นนั้นแล้ว คุณจะไม่อดทนต่อบรรดาพี่น้องที่มีข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ หรือ? พวกคุณจงอดทนต่อพวกเขาเถิด และจงจูบที่หน้าผากของเขา และบอกกับเขาว่า คุณรักเขา
“โอ้ มุอ๊าซ แท้จริง ฉันนั้นรักท่าน” (ท่านเราะสูลกล่าว)
การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ถูก หรือผิดกันเล่า?
โอ้ พี่น้องที่รักของผม ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ แท้จริงผมรักพี่น้องทั้งหลาย
พี่น้องที่รัก จงอย่าเดินไปหาพี่น้องของคุณและกล่าวว่า “คุณและอาจารย์ของคุณยังไม่เข้าใจ คุณและอาจารย์ของคุณต่างมีทิฐิมากเหลือเกิน” เป็นต้น
แน่นอนว่า หากคุณพูดเช่นนั้น พี่น้องของคุณย่อมตอบกลับมาว่า “คุณกับอาจารย์ของคุณก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
พึงระลึกถึงอัลลอฮฺ พึงห่วงใยพี่น้องของท่านเถิด
จงมีความเมตตา และแสดงความอ่อนโยนต่อพวกเขา เพราะนี่คือยุคแห่งความประหลาด นี่คือช่วงเวลาแห่งความแปลก และหากคุณพบใครสักคน และพบว่า “มีเพียงเสี้ยวหนึ่ง” ในตัวเขาที่อยู่บนหนทางที่ถูกต้อง ดังนั้น คุณจงจูบที่หน้าผากของเขาเถิด … แม้จะเป็นเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งเท่านั้น คุณก็จงจูบลงที่หน้าผากของเขาและบอกเขาว่าคุณรักเขาเถิด
—————
อ้างอิง
Shaykh Muhammad ibn Abdil-Wahhaab al-Aqeel
Category: Contemporary Issues
Translator: Nadir Ahmad, Abu Abdul-Waahid
www.madeenah.com