เด็กหนุ่ม กับ คุ้กกี้
แหล่งที่มา คลิปวิดีโอ http://www.youtube.com/watch?v=HQZONHP-YII
ถอดความ บินติ อัลอิสลาม
เรื่องราวต่อไปนี้ถูกถ่ายทอดโดยชัยคฺมุหัมมัด อัลชะฮฺรอนียฺ (นักวิชาการประเทศซาอุดิอารเบีย)
ชัยคฺเล่าว่า
“ผมรู้จัก “เด็กหนุ่มคนนี้” ด้วยตัวของผมเอง และผมไม่ได้บอกว่า “เขา” มาจากลูกหลานของชาวอิสรออีล หากแต่เขามาจากลูกหลานแห่งผืนแผ่นดินนี้ (ซาอุดิอารเบีย) เขามักจะหลั่งน้ำตาอยู่เป็นนิจ และเขาไม่เคยอ่านอัลกุรอานโดยที่เขาไม่ร้องไห้ เขาเป็นคนที่พิเศษ และเป็นคนแปลก
“เขา” สามารถท่องจำอัลกุรอานได้ ขณะที่เขามีอายุเพียงแค่สิบสองปี อย่างไรก็ตาม เขามีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอายุจริงของเขา ด้วยเพราะถ้อยคำของอัลลอฮฺและความรู้ที่เขามีเกี่ยวกับอัลลอฮฺ และผมไม่ได้ให้สถานะเขาสูงยิ่งไปกว่าที่อัลลอฮฺทรงประทานแก่เขา
ผมเล่าเรื่องราวของ “เด็กหนุ่มคนนี้” ให้พวกคุณทราบ โดยที่ผมได้วางเงื่อนไขหนึ่งต่อตัวผมเองว่า ผมจะไม่เล่าเรื่องเกินกว่าสิ่งที่ผมได้เห็นด้วยตาของผมเอง เงื่อนไขที่สองที่ผมวางไว้ต่อตัวผมเองคือ ผมจะไม่กล่าวเกินความจริงในสิ่งใดๆ ก็ตามที่ผมจะบอกกล่าวเกี่ยวกับเขา
“เขา” ท่องจำ “เศาะหียฮฺ มุสลิม” กับผมภายในสองสัปดาห์ และเขาท่องจำ “เศาะหียฮฺ อัลบุคอรียฺ” กับเพื่อนอีกคนของผม (เรามีกันสามคน) ภายในสองสัปดาห์ พวกคุณตระหนักหรือไม่? ซึ่งขณะนั้นผมไม่ทราบว่าเขาสามารถท่องจำท่องจำอัลบุคอรียฺได้ และเพื่อนผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาสามารถท่องจำมุสลิมได้
“เด็กหนุ่มคนนี้” รัก “ความอิคลาส” เขาชื่นชอบอัซซิรฺรียฺ อัซซอกฺตียฺ ( as-Sirri as-Saqti). คุณรู้หรือไม่ว่าเพราะอะไรเขาถึงชอบ อัซซิรฺรียฺ อัซซอกฺตียฺ เป็นพิเศษ? เพราะว่าอัซซิรฺรียฺ อัซซอกฺตียฺ นั้นเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญต่อ “ความอิคลาส” เป็นอย่างมาก
“เด็กหนุ่มคนนี้” เป็นคนที่เรียนเก่งมากในโรงเรียน หรือเป็นที่หนึ่งในโรงเรียนก็ว่าได้ เขาจะนอนระหว่างเวลาที่เขากลับจากโรงเรียนจนกระทั่งเวลาดุฮฺริ หลังจากอัสรฺ เขาจะเข้าร่วมฮะลาเกาะฮฺ หลังมัฆริบ เขาจะเข้าฟังบทเรียนของอุลามะฮฺ หลังจากอีชาถึงห้าทุ่มเขาจะทบทวนบทเรียนจากโรงเรียน และจากห้าทุ่มทุกๆ วัน เขาจะละหมาดทั้งคืนจนถึงฟัจรฺ
ผมไม่ได้กล่าวเกินความจริง “เขา” มาจากลูกหลานของเรา จากประเทศของเรา! (ซาอุดิอาระเบีย)
เมื่อใดก็ตามที่ “เขา” อ่านอัลกุรอาน เขามักจะร้องไห้
ผมเคยอ่านเรื่องราวที่ว่า เมื่อสลัฟบางท่าน อ่านอัลกุรอาน พวกเขาก็จะเป็นลมล้มพับไป ผมทราบเรื่องนี้จากบรรดาอุลามะอฺ แต่ผมก็ไม่เคยเห็นมันด้วยตาของผมเอง แต่ผมได้เห็นมันจาก “เด็กหนุ่มคนนี้”
เราเคยละหมาดญุมอะอฺร่วมกัน และเมื่ออิม่ามอ่านอัลกุรอานอายะหฺที่ว่า “และชาวนรกได้ร้องเรียกชาวสวรรค์ว่า จงเทน้ำมาให้แก่พวกเราด้วยเถิด” (อัล อะร๊อฟ 50)
“เขา” ก็เป็นลมล้มพับไป จนเราคิดกันว่าเขาได้เสียชีวิตแล้ว
คืนหนึ่งเราละหมาดกันที่บ้านของผม ผมแสร้งว่าผมนอนหลับอยู่ เพื่อที่จะดูว่าเขาจะทำอะไรบ้าง จากนั้น “เขา” ได้เดินมาที่ผมและโบกมือไปมาตรงตาของผม (เพื่อดูว่าผมยังตื่นอยู่หรือไม่) เขาตื่นขึ้นมาตอนห้าทุ่ม และผมก็หลับๆ ตื่นๆ ระหว่างนั้นเขายืนละหมาดในร็อกอัตฺและผมก็ไม่เห็นว่าเขาจะมีทีท่าว่าจะก้มตัวลงเลย จากนั้นผมก็เห็นเขาก้มตัวลง และผมก็ไม่เห็นว่าเขาจะมีทีท่าจะลุกขึ้นเลยเช่นกัน
อีกคืนหนึ่ง “เขา” ก็อ่านอัลกุรอาน และ เมื่อ “เขา” อ่านถึงอายะหฺนี้ ต่อหน้าผม
“แท้จริงมันคือไฟนรก หนังศีรษะถูกลอกออก (เพราะความร้อนของไฟนรก)” (อัลกุรอาน 70:15-16)
จากนั้น “เขา” ก็ร้องไห้ และเป็นลมไป ผมปลุกให้เขาตื่น เมื่อเขาตื่น เขาก็อาบน้ำละหมาด และละหมาด เมื่อเขาอ่านถึงอายะนี้อีกครั้ง
“แท้จริงมันคือไฟนรก หนังศีรษะถูกลอกออก (เพราะความร้อนของไฟนรก)” (อัลกุรอาน 70:15-16)
“เขา” ก็ร้องไห้และเป็นลมไปอีกครั้ง ผมปลุกเขาขึ้นมาอีก และเมื่อเขาอ่านถึงอายะนี้เป็นครั้งที่สาม เขาก็เป็นลมอีกและไม่ได้ตื่น จนกระทั่งอะซานฟัจรฺ
“เด็กหนุ่มคนนี้” จะอ่านอัลกุรอานจบทั้งเล่ม ทุกๆ สามคืนอย่างลับๆ ขณะละหมาดยามค่ำคืน และเขาจะอ่านทุกๆ เจ็ดวันอย่างเปิดเผยระหว่างวัน ผมไม่ได้กล่าวเกินจริง เพราะเขาทำสิ่งนั้นต่อหน้าผม และด้วยพระนามของอัลลอฮฺ เขากล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺในแต่ละวันมากกว่า 12,000 ครั้ง! ผมนับมันด้วยตัวผมเองขณะที่ผมนั่งอยู่กับเขา จำนวน 12,000 ครั้ง! ผมถามเขาว่า “ทำไม” เขาตอบว่า “ผมไม่ต้องการให้อบู ฮุร็อยเราะอฺทำสิ่งนี้มากเกินกว่าผม” เขามีความอิจฉา ความอิจฉาเมื่อมันเกี่ยวกับการอิบาดะฮฺ
“เขา” มีอายุเพียงแต่สิบเจ็ดปี ขณะที่เขามีระดับ (ความศรัทธา) ขนาดนั้น
ผมไม่รู้ว่าผมจะพูดอย่างไรดีเกี่ยวกับเขา! เมื่อใดก็ตามที่ “เขา” เจอ “ข้อความหนึ่ง” เพื่อท่องจำ ผมจะบอกเขาว่า “ผมท้าให้คุณท่องจำข้อความนี้” เขาก็จะบอกกับผมว่า “อย่าท้าผมเลย” ผมก็ท้าทายเขา และบอกว่า “ผมขอท้าคุณ” วันต่อมา เขาก็มาหาผมและท่องข้อความนั้นกับผม เสมือนกับว่ามันเป็นเพียงชื่อเขา และหากว่าเขามีข้อผิดพลาดในการท่องจำเพียงแค่สามจุด เขาก็จะไม่ถือว่าตัวเขาท่องจำอะไรได้เลย เพียงแค่สามข้อผิดพลาดเท่านั้น!
และคุณคิดดูสิว่า “เขาคนนี้” คือผู้ปรารถนาที่จะกลับเนื้อกลับตัว!! หากเพียงคุณทราบว่าบาปของเขาคืออะไร!!
บางครั้งหากเรารู้สึกหมดหวัง ในเวลาที่เราดะวะฮฺต่อใครคนหนึ่ง และรู้สึกหมดหวังในตัวเขา (ที่จะช่วยทำให้เขามาสู่หนทางที่ถูกต้อง) ซึ่งผมหมายถึงตัวของผมเอง (ที่หมดหวัง) และอัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่งว่าคนอื่นๆ (จะผิดหวังเช่นผมหรือไม่)
หากแต่ “เด็กหนุ่มคนนี้” คือผู้ที่ “การดุอาอฺของเขา” ได้รับการตอบรับต่อหน้าคนจำนวนสิบเจ็ดคนที่เป็นพยานต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งมีมากกว่าหนึ่งเหตุการณ์
ดังนั้นหากเราสิ้นหวัง (ในการที่จะดะวะฮฺ) ต่อใครคนหนึ่ง เรามักจะขอให้ “เขา” ช่วยไปทำการดะวะฮฺคนคนนั้น
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ หลังจากนั้นเพียงแค่สองวัน “คนคนนั้น” ก็ได้รับทางนำ “เด็กหนุ่มคนนี้” ใช้เวลา (ในการดะวะฮฺ) เพียงแค่สองวันเท่านั้น วันที่หนึ่ง วันที่สอง และจากนั้น “คนคนนั้น” ก็เริ่มทำการละหมาดอยู่ในแถวแรก ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนที่สูบบุหรี่ หรือติดยาเสพติด ก็ตาม เขาจะเปลี่ยนแปลงไปโดยทันทีด้วยการอนุมัติของอัลลอฮฺ นี่คือบะเราะกัต มันคือบะเราะกัต!!
วันหนึ่ง เราละหมาดอยู่ด้านหลังอีหม่ามท่านหนึ่งที่ทางภาคใต้ (ของประเทศซาอุดีอารเบีย) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าอีหม่ามท่านนี้จะละหมาดเป็นระยะเวลายาวนาน ดังนั้นอีหม่ามท่านนึ้จึงทำให้การละหมาดยาวนานขึ้น ตามสุนนะฮฺ เมื่ออีหม่ามได้นำละหมาด สักพักหนึ่งมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาและตีที่หลังของอีหม่ามท่านนี้ด้วยไม้ขณะที่เขากำลังรูกั้วอยู่ต่อหน้าผม หลังจากละหมาดเสร็จสิ้น อีหม่ามได้มองไปยังชายคนนั้นและถามเขาว่า “ทำไมคุณถึงตีผม”
ชายคนดังกล่าวตอบว่า “คุณคงได้ยินเสียงกระซีบ (จากชัยฎอน ให้ละหมาดนานขึ้น) คุณทำให้เราละหมาดนานเกินไป”
อีหม่ามจึงตอบว่า “คุณมีสุขภาพที่ดีนะ คุณมีสุขภาพที่ดี!”
ชายคนเดิมตอบว่า “คุณรู้ได้ยังไงว่าผมสุขภาพดี”
จากนั้น “เด็กหนุ่มคนนี้” จึงยกมือของเขาขึ้นต่ออัลลอฮฺ ขณะที่เขายกมือของเขาขึ้น หัวใจของผมแทบหยุดเต้น และเขากล่าวว่า “โอ้ อัลลอฮฺ ทรงนำเอาสุขภาพที่ดีไปจากเขา จนกว่าเขาจะทราบถึงคุณค่าของการละหมาดและละหมาดเป็นอย่างดีต่อหน้าพระองค์”
ขณะนั้นเป็นเวลาอัสรฺ ผมสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮฺว่า ชายคนดังกล่าวไม่ได้มาละหมาดมัฆริบพร้อมกับเรา เพราะเขาอยู่ที่บ้าน นอนอยู่บนเตียง หลังจากนั้นสองสัปดาห์ ผมพบกับเด็กหนุ่มคนดังกล่าว ผมจึงบอกกับเขาว่า “จงยำเกรงต่ออัลลอฮฺเถิด ชายคนนั้นนอนอยู่บนเตียงที่บ้านของเขา ผมวอนขอคุณด้วยอัลลอฮฺ” เขาตอบผมว่า “พี่ชายของผม ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนั้น” ผมจึงบอกเขาว่า “ได้โปรดวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺให้ทรงเยียวยาเขาด้วยเถอะ” ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ชายคนดังกล่าวก็กลับมาละหมาดกับเราในเวลาละหมาดถัดจากนั้น
“เด็กหนุ่มคนนี้” มักจะใส่แว่นตาหนาๆ ผมกำลังบอกคุณว่านี่คือ “ผู้สำนึกผิด” จากช่วงเวลาของเรา ผมรู้จักเขา เขาคือเพื่อนของผม ผมมีอายุที่มากกว่าเขา หากแต่เขาดีมากยิ่งกว่าผม ผมไม่ได้ให้สถานะที่สูงส่งแก่เขาเกินกว่าที่อัลลลอฮฺทรงวางมันไว้ให้แก่เขา
“แว่นตาของเขา” มักจะสร้างความรำคาญใจให้กับเขา วันหนึ่งขณะที่อยู่ในมัสยิดอัลฮะรอม เขาจึงพูดขึ้นมาว่า “ผมไม่สามารถที่จะไปปาเลสไตน์ได้แม้แต่วันเดียวด้วยแว่นตานี้” ดังนั้นเขาจึงเดินไปยังบ่อน้ำซัมซัม ต่อหน้าผู้คนจำนวนสิบเจ็ดคน จากนั้นเขาก็ถอดแว่นออก และเอาน้ำซัมซัมมา พร้อมกับกล่าวว่า“โอ้ อัลลอฮฺ โปรดเยียวยาการมองของข้าพระองค์ด้วยเถิด” และเขาก็ดื่มมัน จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “อัลลอฮุ อักบัร” และโยนแว่นตานั้นออกไปต่อหน้าผู้คน พวกเขาต้องการที่จะทดสอบ (ว่าสายตาของเขาดีขึ้นจริงหรือไม่) พวกเขาจึงชี้ไปที่นาฬิกาเรือนหนึ่งซึ่งไม่มีใครที่จะสามารถมองเห็นได้ พวกเขาได้ถามเขาว่า “คุณบอกพวกเขาได้ไหมว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไร่” เขาตอบว่า “ตอนนี้เวลานั้นเวลานี้” ซึ่งคำตอบนั้นถูกต้อง สายตาของกลับมาดีปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาก็สามารถอ่านอัลกุรอานได้ดียิ่งขึ้น
แท้จริงแล้ว มันเป็นเพราะดุอาอฺ “และเมื่อเขาวิงวอนขอจากข้า ข้าก็จะให้เขา”
คุณทราบหรือไม่ว่า วันหนึ่งผมถามเขาเกี่ยวกับ “บาป” ของเขา ผมถามเขาขณะที่เขาอ่านอายะฮฺอัลกุรอาน
“วันที่ บางใบหน้าจะสว่างไสว และบางใบหน้าจะดำคล้ำ” (3:106)
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ เขาร้องไห้จนกระทั่งผมรู้สึกว่าหัวใจของผมกำลังจะฉีกขาด ผมพูดกับเขาว่า“ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า “คนที่ชั่วร้ายที่สุด คือคนที่ถูกถามด้วยพระนามของอัลลอฮฺ และไม่ได้รับการตอบกลับ และผมขอถามคุณด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ว่าอะไรที่ทำให้คุณร้องไห้แบบนี้” ผมอยากจะร้องไห้ได้เหมือนเขา ผมอยากจะรู้สึกถึงความสุขที่เขารู้สึก
เขาตอบว่า “ในชีวิตของผม ผมได้กระทำบาปอย่างหนึ่ง”
ผมถามเขาว่า “บาปนั้นคืออะไรหรือ”
คุณทราบหรือไม่ว่า บาปของเขาคืออะไร คุณคงหัวเราะกับตัวเองแน่ๆ ผมจะเล่าให้คุณฟัง เขาบอกผมว่า “ตอนที่ผมเรียนอยู่เกรดสอง ผมไปที่ร้านค้าแห่งหนึ่งและผมได้เอาคุกกี้จากร้านนั้นมากิน และไฟนรกนั้นคู่ควรยิ่งต่อร่างกายที่บริโภคสิ่งต้องห้าม (หมายถืงเขากินคุกกี้ที่ไม่ใช่ของเขา)
อย่างไรก็ตาม เขาเสียชีวิตลง ขณะที่เขาอายุเพียงแค่ยี่สิบปี ขออัลลอฮฺประทานความเมตตาต่อเขาด้วยเถิด เขาเสียชีวิตลงด้วยเพราะกระสุนที่ใครบางคนยิงพลาดมาขณะลองใช้อาวุธนั้น
กระสุนถูกยิงออกมาเข้าสู่ร่างกายของเด็กหนุ่มคนนี้โดยอุบัติเหตุ และมันได้ฆ่าเขาตาย เขาตายเฉกเช่นผู้มีคุณธรรม และผมคิดว่าเขาเป็นเช่นนั้นต่ออัลลอฮฺซุบฮา นะฮู วะตะอาลา
เขาเสียชีวิตลง และมันก็จบลงเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม “เรื่องราวของเขา” ไม่ได้ตายลงไปด้วย และด้วยพระนามของอัลลอฮฺ หากมันไม่ได้เป็นเพราะว่าเขาขอให้ไม่ให้ผมเปิดเผยชื่อของเขาด้วยพระนามของอัลลอฮฺแล้ว ผมก็จะเปิดเผยชื่อของเขาให้ท่านได้ทราบ
หมายเหตุ ผู้แปลไม่ได้แปลตรงตัวตามที่ชัยคฺได้บรรยายไว้ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น จึงได้มีการปรับใช้ถ้อยคำให้เหมาะสมในการสื่อเรื่องราว
Read Full Post »